เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรณีการซื้อสมาร์ทวอทช์ของผู้บริโภคนั้นยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร มุมของตลาดไม่อิ่มตัวเหมือนในปัจจุบัน และฟีเจอร์ต่างๆก็มีจำกัดมากขึ้น ทุกวันนี้ โลกแห่งอุปกรณ์สวมใส่เต็มไปด้วยตัวเลือกคุณภาพสูงมากมาย โดยผู้ใช้งานก็มักจะมีตัวเล่นหลัก เช่น Apple Watch, Samsung Galaxy Watch และ Fitbit Versa ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดด้วยคุณสมบัติอันชาญฉลาดของพวกเขา
และนี่เป็นโอกาสที่ดีหากคุณได้มาอ่านบทความนี้ คุณอาจตัดสินใจได้เลยว่าได้เวลาอัปเกรดสมาร์ทวอทช์บนข้อมือของคุณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกามาตรฐานหรือสมาร์ทวอทช์รุ่นเก่า ไม่ว่าคุณจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ใด คุณต้องการพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ซึ่งเรื่องนั้นยังอีกยาวไกล โดยผมจะช่วยคุณทำความเข้าใจกับมันได้มากขึ้น

สิ่งที่ควรมองหาในสมาร์ทวอทช์?
“ความเข้ากันได้กับตัวเราและสมาร์ทวอทช์”
แน่นอนว่า Apple Watch นั้นใช้งานได้กับ iPhone เท่านั้น ในขณะที่อุปกรณ์ Wear OS ใช้งานได้ดีกับทั้งโทรศัพท์ iOS และ Android สมาร์ทวอทช์ที่ผลิตโดย Samsung, Garmin, Fitbit และอื่นๆ ยังรองรับ Android และ iOS ได้ด้วย แต่คุณจะต้องติดตั้งแอพที่ใช้ร่วมกันซะก่อน
โดยระบบปฏิบัติการของสมาร์ทวอทช์จะกำหนดประเภทและจำนวนแอพ third-party ที่คุณจะสามารถเข้าถึงได้ สิ่งเหล่านี้นั้นหลายอย่างไม่ค่อยมีประโยชน์นัก แต่ปัจจัยนี้ก็ดูจะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาพรวม

“ราคา”
สมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดโดยทั่วไปมีราคาอยู่ระหว่าง 10,315 ถึง 13,754 บาท (ราคานี้เป็นราคาประมาณเทียบจาก USD ในช่วงค่าเงินตามวันที่เขียนบทความ) เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดซึ่งมีราคาระหว่าง 3,438 ถึง 8,596 บาท อุปกรณ์ที่มีราคาแพงกว่าเรทประหยัดเหล่านี้ จะมีคุณสมบัติด้านการสื่อสาร เพลง และฟิตเนสขั้นสูง พวกเขามักจะรวมสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น การติดตามด้วย GPS ในตัว ที่เก็บเพลง และ NFC ซึ่งอุปกรณ์ราคาประหยัดทั่วไปนั้นไม่มี
แต่บางบริษัทผลิตนาฬิกาสำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งนาฬิกาเหล่านี้สามารถวิ่งอยู่ได้ในเรทราคา 17,192 บาทขึ้นไป โดยส่วนตัวผมอยากจะแนะนำสมาร์ทวอทช์แนวนี้ให้กับผู้ที่เล่นกีฬาแบบจริงจังเท่านั้น นี่ยังไม่รวมสมาร์ทวอทช์สุดหรูจากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น TAG Heuer และ Hublot ก็สามารถไปถึงราคาที่สูงลิบลิ่วได้เช่นกัน แต่เราจะไม่สนับสนุนสิ่งเหล่านี้ อุปกรณ์เหล่านี้อาจมีราคามากกว่า 34,385 บาท และคุณจะต้องจ่ายเงินมากกว่าเพื่อชื่อแบรนด์และการได้มาซึ่งวัสดุตัวเรือนที่แปลกใหม่ซึ่งอาจไม่จำเป็นมากนัก

“อายุการใช้งานแบตเตอรี่”
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยังคงเป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่ใหญ่ที่สุดของเราเกี่ยวกับสมาร์ทวอทช์ แต่ยังมีหวังในช่วงหลังที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งคุณสามารถคาดหวังความอึดของแบตเตอรี่ได้ถึงสองวันเต็มจาก Apple Watch และอุปกรณ์ Wear OS ส่วนใหญ่ นาฬิกาที่ใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon Wear 3100 นั้นรองรับโหมดขยายแบตเตอรี่ที่รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 5 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หากคุณปิดคุณสมบัติส่วนใหญ่ที่นอกเหนือจากการแสดงเวลา โปรเซสเซอร์ Wear 4100 และ 4100+ เจนเนอเรชั่นถัดไปของ Snapdragon ได้รับการประกาศในปี 2020 แต่นั่นมีอุปกรณ์เพียงนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งบางรุ่นยังไม่สามารถใช้งานได้ รุ่นอื่น ๆ สามารถอยู่ได้ห้าถึงเจ็ดวัน แต่มักจะมีคุณสมบัติน้อยกว่าและจอแสดงผลคุณภาพต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน นาฬิกาออกกำลังกายบางรุ่นสามารถใช้งานได้นานหลายสัปดาห์ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว
สมาร์ทวอทช์บางรุ่นรองรับการชาร์จที่เร็วขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น Apple สัญญาว่า Series 7 สามารถใช้พลังงานจากศูนย์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียง 45 นาที และชาร์จจนเต็มภายใน 75 นาที OnePlus Watch นั้นเร็วยิ่งขึ้น โดยเพิ่มพลังจากศูนย์เป็น 43 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียง 10 นาที

“การใช้งานด้านสื่อสาร”
สมาร์ทวอทช์ทุกเรือนที่ควรค่าแก่การเลือกใช้งานนั้นควรจะส่งการแจ้งเตือนการโทร ข้อความ และแอพไปยังข้อมือของคุณ การแจ้งเตือนการโทรและข้อความนั้นอธิบายได้ในตัว แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้มีความหมายมากสำหรับคุณ ลองพิจารณาดูนาฬิกาที่มี LTE พวกนั้นมีราคาแพงกว่าแบบที่มี WiFi เท่านั้น แต่การเชื่อมต่อแบบเซลลูลาร์ทำให้สมาร์ทวอทช์สามารถรับสายโทรศัพท์ รับส่งข้อความได้โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ของคุณอยู่ใกล้ๆ การส่งการแจ้งเตือนไปยังข้อมือของคุณจะช่วยให้คุณมองลงไปที่หน้าปัดนาฬิกาและดูว่าคุณจำเป็นต้องตรวจสอบโทรศัพท์ของคุณในตอนนี้หรือไม่

“Fitness tracking”
การติดตามการออกกำลังกายของเรานั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนหันมาใช้สมาร์ทวอทช์ นาฬิกาอเนกประสงค์ควรทำหน้าที่เป็นตัวติดตามการออกกำลังกาย บันทึกจำนวนก้าว แคลอรี่ และการออกกำลังกาย และอุปกรณ์สวมใส่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็มีตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย
คุณสมบัติฟิตเนสของสมาร์ทวอทช์หลายรุ่นมี GPS ในตัว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการติดตามระยะทางในการวิ่งและขี่จักรยาน นักว่ายน้ำต้องการสิ่งที่กันน้ำได้ และโชคดีที่อุปกรณ์เอนกประสงค์ส่วนใหญ่สามารถทนต่อการจุ่มลงในสระได้อย่างน้อย สมาร์ทวอทช์บางรุ่นจากบริษัทต่าง ๆ เช่น Garmin ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากกว่ารุ่นอื่น ๆ และนำเสนอคุณสมบัติขั้นสูงมากกว่า เช่น การติดตามความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ การประมาณเวลาพักฟื้น แผนที่ออนบอร์ด และอื่น ๆ
การติดตามเรื่องสุขภาพของผู้ใช้บนสมาร์ทวอทช์ยังเห็นความก้าวหน้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ของ Apple และ Fitbit สามารถประเมินระดับออกซิเจนในเลือดและวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ แต่ยิ่งสมาร์ทวอทช์มีราคาย่อมเยามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสน้อยที่จะมีคุณสมบัติการติดตามสุขภาพเชิงลึกเหล่านี้ หากการรวบรวมตัวชี้วัดสุขภาพประเภทเหล่านั้นมีความสำคัญต่อคุณ คุณจะต้องจ่ายเงินเพื่อรับความสามารถพิเศษเหล่านี้

“การฟังเพลง”
นาฬิกาของคุณไม่เพียงติดตามการวิ่งตอนเช้าของคุณเท่านั้น แต่ยังเล่นเพลงในขณะที่คุณออกกำลังกายได้อีกด้วย สมาร์ทวอทช์หลายรุ่นให้คุณบันทึกเพลงไว้ในเครื่อง คุณจึงสามารถเชื่อมต่อหูฟังไร้สายและฟังเพลงได้โดยไม่ต้องนำโทรศัพท์ไปด้วย ส่วนที่ไม่มีที่เก็บข้อมูลในตัวสำหรับเพลงมักจะมีส่วนควบคุมเพลงบนนาฬิกา คุณจึงควบคุมการเล่นได้โดยไม่ต้องเปิดโทรศัพท์ และหากนาฬิกาของคุณมี LTE ก็ไม่จำเป็นต้องมีการบันทึกเพลงลงในเครื่อง คุณจะสามารถสตรีมเพลงจากนาฬิกาไปยังเอียร์บัดที่จับคู่ได้โดยตรงจากนาฬิกา

“การแสดงผลบนหน้าจอตลอดเวลา”
สมาร์ทวอทช์ระดับเรือธงส่วนใหญ่ในปัจจุบันบางรุ่นเปิดการแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา บางรุ่นเปิดเป็นค่าเริ่มต้น ขณะที่บางรุ่นให้คุณเปิดใช้ผ่านการตั้งค่าที่ปรับแต่ง คุณสมบัติอันชาญฉลาดนี้ช่วยให้คุณเหลือบมองนาฬิกาเพื่อตรวจสอบเวลาและข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณตั้งค่าให้แสดงบนหน้าปัดนาฬิกาโดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้น การดำเนินการนี้จะส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่โชคดีที่โหมดเปิดตลอดเวลาส่วนใหญ่จะลดความสว่างของหน้าจอลง จึงไม่ทำงานที่จุดสูงสุดโดยไม่จำเป็น อุปกรณ์ราคาถูกจะไม่มีคุณสมบัตินี้ หน้าจอของพวกเขาจะปิดโดยอัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ และคุณจะต้องตั้งใจเช็คนาฬิกาของคุณอยู่เสมอเพื่อเปิดจอแสดงผลอีกครั้ง

“NFC”
สมาร์ทวอทช์หลายรุ่นมี NFC (Near Field Communication) ที่ให้คุณชำระเงินโดยไม่ต้องใช้กระเป๋าเงินโดยใช้การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส หลังจากบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแล้ว คุณสามารถใส่สมาร์ทวอทช์แตะกับเครื่องอ่าน NFC เพื่อชำระค่ากาแฟระหว่างทางกลับบ้านหลังจากวิ่ง แต่โปรดทราบไว้ว่านาฬิกาแต่ละเรือนใช้ระบบการชำระเงินที่แตกต่างกัน: นาฬิกา Apple ใช้ Apple Pay, อุปกรณ์ Wear OS ใช้ Google Pay, อุปกรณ์ Samsung ใช้ Samsung Pay เป็นต้น Apple Pay เป็นหนึ่งในระบบการชำระเงิน NFC ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยรองรับธนาคารและบัตรเครดิตหลายแห่งใน 72 ประเทศ ในขณะที่ Samsung และ Google Pay ใช้งานได้ในภูมิภาคที่น้อยกว่า และสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการรองรับการชำระเงิน NFC ทั้งสองจะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โดยเฉพาะระบบของ Samsung และ Google

ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณผู้อ่านแล้วล่ะครับว่ายังมีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ที่จะเป็นตัวช่วยในเรื่องการตัดสินใจที่จะซื้อสมาร์ทวอทช์ซักเรือน นี่ยังไม่รวมเรื่องของความสวยงามดีไซน์ และอื่นๆอีกมากมายที่จะเข้ามามีส่วนร่วม หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้หวังว่าบทความนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจของผู้อ่านได้ครับ