Survival Horror เป็นเกมแนวที่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่หากย้อนกลับไปในปี 1992 เกมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Alone in the Dark ได้จุดประกายแนวคิดทั้งหมด ทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ของทรัพยากรที่จำกัดและการผจญภัยเชิงสืบสวนที่ต่อสู้กับสิ่งแปลกประหลาด ในตอนนี้ Pieces Interactive กำลังรีเมคเกมที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิกที่อัดแน่นไปด้วยดาราชื่อ ซึ่งได้ให้สัญญาว่าจะนำเสนอโครงเรื่องที่สยองขวัญและคลาสสิกแก่ผู้ชมยุคใหม่ "Mikael Hedberg กล่าว"
ทีมนักเขียนและผู้อำนวยการ Amnesia and Soma ผู้รับหน้าที่เขียนบทนั้น ได้ให้คำตอบของเขาที่ดูจะเชื่อมโยงกับคำตอบจาก THQ Nordic ในการถามตอบเกี่ยวกับสื่อ เรื่องสิ่งต่างที่จะเกิดขึ้นกับตัวเกม ๆ ซึ่งมันดูมีความหวังมากที่เราจะได้เตรียมพร้อมที่จะกลับไปสู่ Louisiana Bayou ที่เต็มไปด้วยผีสิงรอบๆ Derceto
อีกหนึ่งการเปิดเผยใหญ่ในครั้งนี้คือ David Harbour นักแสดงจาก Stranger Things ที่จะรับบทเป็นนักสืบ Edward Carnby ซึ่งเป็นบทบาทที่เข้มข้น ต้องเข้าถึงบทบาทอย่างมาก ซึ่ง Harbour เป็นนักแสดงที่สมบูรณ์แบบสำหรับบทนี้ และเป็นบทบาทที่เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างแท้จริงที่ได้ทำ ในขณะเดียวกัน Jodie Comer นักแสดงหญิงจาก Killing Eve จะมารับบทเป็น Emily Hartwood ผู้หญิงที่ว่าจ้าง Carnby ให้สืบสวนชะตากรรมของลุงของเธอ ในขณะที่เธอสืบเสาะลึกลงไปในความลับของครอบครัวของเธอ นั่นคือ "Hartwood Curse" ที่ถูกปกคลุมไปด้วยปริศนา
Pieces ดูเหมือนจะรักษาองค์ประกอบสำคัญหลายอย่างของเกม Alone in the Dark ในยุคแรก ๆ ไว้ในรีเมค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้ระยะประชิดแบบคลาสสิกของซีรีส์ ซึ่งการจะต้องที่ติดอยู่กับสัตว์ประหลาดนั้นถือเป็นเรื่องเสี่ยงที่จะต้องโดนตบอยู่แล้วในเกมแนว Survival Horror ยิ่งในภายหลัง การกระซวก Ghouls ด้วยดาบดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเสียกระสุนที่มีค่าไปเปล่า ๆ
Alone in the Dark ในต้นฉบับนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เมื่อมองดูแล้ว ตัวเกมดูจะไม่มีอะไรพิเศษเพียงเพราะหลาย ๆ เกมนับตั้งแต่นั้นมาก็ทำทุกอย่างเหมือนกับที่ Alone in the Dark ทำ ไม่ว่าจะกล้องมุมเดียวในพื้นที่ภาพ 3 มิติ? วิธีการตรวจสอบความลึกลับ?
แต่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ของ Alone in the Dark จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง ซึ่งแต่เดิม Alone in the Dark ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Resident Evil นั่นทำให้เราสบายใจเมื่อเห็นว่าการรีเมค Alone in the Dark นั้นกำลังจะดึงงานออกแบบบางส่วนมาจากที่ Resident Evil ได้ทำเช่นกัน เป็นการสร้างใหม่ในขณะที่ยังคงเอกลักษณ์ของสิ่งที่เป็นอยู่ กล้องสะพายไหล่ควรได้การปรับปรุงอย่างจริงจังเพื่อใช้สำหรับทั้งการนำทางและการเยี่ยมชมสถานที่ เรื่องของการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดนี่ไม่ต้องพูดถึง มันจะได้รับการขัดเกลาอย่างดี
หนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของ Alone in the Dark คือฉากหลังที่เป็นสถานที่อย่าง Louisiana Bayou เป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับเหตุผลของแนว Southern Gothic เป็นแนวที่เก่าแก่กว่า Survival Horror โดย Mikael Hedberg ได้ให้คำตอบที่ค่อนข้างน่าพอใจว่า Alone in the Dark จะสำรวจรากเหง้าของเรื่องราวเหล่านั้นหรือไม่ โดยสังเกตว่าการขยายเรื่องราวในภาครีเมคทำให้ Pieces มีพื้นที่ในการขยายประเพณีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและเชื่อมโยงเรื่องราวให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับ Voudou เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงบรรยากาศที่บีบคั้นของภาพยนตร์เรื่อง Angel Heart ในปี 1986 ซึ่งเป็นหนังระทึกขวัญแนวจิตวิทยาที่ผมคิดว่านั้นจะนำเสนอเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับหนังสยองขวัญในบ้านเก่าๆ
เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินตัวเลือกทางดนตรีที่ Pieces สร้างขึ้น แจ๊สเป็นดนตรีหลักของหลุยเซียน่า แต่ผู้กำกับ Alone in the Dark ได้ดึงเอาความทันสมัยของยุโรปเข้ามาด้วย นั่นคือบรรยากาศของ Doom Jazz ที่ผสมโลหะเข้าไป เกมสยองขวัญส่วนใหญ่ไม่ค่อยเต็มใจที่จะเสี่ยงกับซาวด์แทร็กหนัก ๆ สำหรับแนวทางสุนทรียภาพของ Alone in the Dark: นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าพลังและเสียงรอบข้างแปลกๆ และการดรัมโรลแบบกดดันก็ยังใส่เข้ามาอีกด้วย
โดยรวมแล้ว ทีมงานและแรงจูงใจดูเหมือนจะได้เวลาที่เหมาะสมที่จะนำเสนอเกมสยองขวัญสุดคลาสสิกที่น่าตื่นเต้น ตั้งตารอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Alone in the Dark ได้เลย เพราะตอนนี้ตัวเกมกำลังจะวางจำหน่ายแล้ว